นโยบายต่างประเทศของทรัมป์จุดกระแสแนวคิดพันธมิตรโลกใหม่ที่ไม่มียุโรป

นโยบายต่างประเทศของทรัมป์จุดกระแสแนวคิดพันธมิตรโลกใหม่ที่ไม่มียุโรป

ข้อเสนอที่แพร่สะพัดในกรุงวอชิงตันได้สร้างความประหลาดใจ ด้วยแนวคิดจัดตั้งกลุ่มอำนาจโลกใหม่ที่จะรวมสหรัฐอเมริกาเข้ากับจีน รัสเซีย อินเดีย และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากพันธมิตรดั้งเดิมอย่างกลุ่ม G7

เกิดอะไรขึ้น

แนวคิดนี้ซึ่งถูกเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า “Core 5” โผล่ขึ้นมาในช่วงที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามอย่างยากลำบากที่จะเป็นคนกลางยุติสงครามรัสเซีย–ยูเครน ตามรายงานของ POLITICO according

ข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์นโยบายบางรายมองว่าสะท้อนความชอบของทรัมป์ที่เน้นการ “ดีล” กับประเทศคู่แข่ง จะนำประเทศที่เคยเป็นคู่แข่งขันเชิงยุทธศาสตร์กันมารวมกลุ่มกัน

POLITICO ระบุว่าทรัมป์พยายามหาช่องทางสื่อสารโดยตรงกับคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์มาโดยตลอด รวมถึงการอนุญาตให้ Nvidia ส่งออกชิป AI รุ่น H200 ไปยังจีน และการส่ง สตีฟ วิตคอฟฟ์ และ จาเร็ด คุชเนอร์ ไปพบประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ที่มอสโก

อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์รายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ บอกกับ POLITICO ว่า แม้ป้ายชื่อ “Core 5” จะไม่เคยถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในช่วงปีก่อน ๆ แต่การสนทนาก็มักจะเน้นความเชื่อที่ว่าองค์กรระหว่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่าง G7 และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่ได้สะท้อนดุลอำนาจโลกยุคใหม่อีกต่อไป

มีรายงานว่าข้อเสนอนี้ปรากฏอยู่ในร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับที่ยังไม่เผยแพร่ ซึ่งหมุนเวียนอยู่ภายในรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้ปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าวโดยสิ้นเชิง

โฆษกหญิง แอนนา เคลลี ระบุว่า ไม่มีเอกสารฉบับลับหรือฉบับทางเลือกอื่นใด นอกจากเอกสารความยาว 33 หน้า ที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว

ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศมองว่าแนวคิดนี้เข้ากับโลกทัศน์ของทรัมป์

Also Read: What Happens If A Stablecoin Company Owns Juventus? Europe May Soon Decide

ทอร์รี เทาซิก อดีตเจ้าหน้าที่ด้านกิจการยุโรปในรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ระบุว่าการจัดกลุ่มดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มของทรัมป์ ที่มองการเมืองโลกผ่านเลนส์ของ “ผู้นำที่แข็งแกร่ง” และ “เขตอิทธิพลระดับภูมิภาค”

เธอชี้ว่าการไม่มียุโรปอยู่ในกลุ่ม C5 ในจินตนาการนี้ จะยิ่งตอกย้ำความกังวลว่ารัฐบาลวอชิงตันมองมอสโกให้เป็นมหาอำนาจหลักในภูมิภาค

ไมเคิล โซโบลิก อดีตที่ปรึกษาของวุฒิสมาชิก เท็ด ครูซ ระบุว่าแนวคิดนี้แตกต่างอย่างมากจากท่าทีในสมัยแรกของทรัมป์ต่อจีน ที่เคยมองปักกิ่งเป็นคู่แข่งเชิงยุทธศาสตร์

รัฐบาลทรัมป์ได้ส่งสัญญาณแล้วว่าพร้อมจะทบทวนการจัดวางแนวร่วมของสหรัฐฯ ใหม่

รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ เพิ่งกล่าวถึงการประชุม “G2” ระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ซึ่งสร้างความกังวลให้กับสมาชิกรัฐสภา

ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังเน้นถึงการเบนความสนใจออกจากยุโรป ซึ่งถูกอธิบายว่ากำลังเผชิญกับ “การลบล้างอารยธรรม” และหันกลับมาให้ความสำคัญกับซีกโลกตะวันตกแทน

ส.ส. ราชา กฤษณะมูรตี แกนนำพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการว่าด้วยจีนของสภาผู้แทนราษฎร วิจารณ์คำพูดของเฮกเซธในจดหมาย โดยเรียกกรอบความคิดแบบ “G2” ว่า “น่ากังวลอย่างยิ่ง”

การเปลี่ยนทิศทางในวงกว้างนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ตัดถ้อยคำที่ระบุว่ารัสเซียเป็น “ภัยคุกคามโดยตรง” ออกจากยุทธศาสตร์ความมั่นคงฉบับปรับปรุง

รัฐบาลชุดนี้อธิบายนโยบายต่างประเทศของตนว่าเป็น “ความเป็นจริงนิยมแบบยืดหยุ่น” ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแนวทาง “อเมริกาต้องมาก่อน”

ทรัมป์มักกล่าวถึงปูตินในเชิงบวกอยู่บ่อยครั้ง ท่าทีดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้กับรัฐบาลยุโรปที่ยังต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในขณะที่สงครามในยูเครนยังดำเนินต่อไปอย่างยืดเยื้อ

Read Next: Fireblocks Exec: Banks, Not Crypto, Will Decide The Future Of Stablecoins

ข้อจำกัดความรับผิดชอบและคำเตือนความเสี่ยง: ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้มีไว้เพื่อการศึกษาและการให้ข้อมูลเท่านั้น และอิงตามความเห็นของผู้เขียน ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน กฎหมาย หรือภาษี สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง รวมถึงความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ การซื้อขายหรือการถือครองสินทรัพย์คริปโตอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน ความเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ได้แทนนโยบายหรือตำแหน่งอย่างเป็นทางการของ Yellow ผู้ก่อตั้ง หรือผู้บริหาร ควรทำการวิจัยอย่างละเอียดด้วยตนเอง (D.Y.O.R.) และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ เสมอ
ข่าวล่าสุด
แสดงข่าวทั้งหมด
นโยบายต่างประเทศของทรัมป์จุดกระแสแนวคิดพันธมิตรโลกใหม่ที่ไม่มียุโรป | Yellow.com