การผลักดันของวุฒิสมาชิกสหรัฐให้ บิตคอยน์ เป็นสินทรัพย์สำรองของเฟดได้ก่อให้เกิดการถกเถียง ไม่ใช่ทุกคนที่มีความสุขกับแนวคิดนี้ทั้งหมด เพราะอาจถูกใช้เพื่อช่วยให้นักเก็งกำไรโลภได้กำไรจากราคาบิตคอยน์ที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ทนายด้านธนาคารที่มีชื่อเสียง ทอดด์ ฟิลลิปส์ ไม่เห็นด้วยกับมัน
วุฒิสมาชิกซินเธีย ลัมมิส เตรียมที่จะเปิดเผยกฎหมายที่ Bitcoin Conference ร่างกฎหมายนี้จะบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐซื้อและถือบิตคอยน์เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์
ลัมมิสหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ถ้าเขาชนะการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดี แต่ฟิลลิปส์ไม่มั่นใจ
เขา โต้แย้ง ว่าบิตคอยน์ขาดคุณสมบัติของสินทรัพย์สำรองที่เหมาะสม “มันไม่เหมือนน้ำมัน” ฟิลลิปส์กล่าว
ทนายยืนยันว่าบิตคอยน์ไม่ใช่ส่วนประกอบของสินค้าหรือบริการในโลกจริง เขาคิดว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นเพียงเพื่อดันราคาบิตคอยน์ขึ้น
“มันเป็นเพียงการบังคับให้เฟดซื้อบิตคอยน์ เพื่อส่งราคาสูงขึ้นให้นักเก็งกำไร” ฟิลลิปส์กล่าว
แต่เหล่าผู้รู้ในวงการคริปโตกลับโต้แย้งกลับ แมทธิว ซีเกล จาก VanEck ท้าทายมุมมองของฟิลลิปส์
ซีเกลชี้ถึงบทบาทของบิตคอยน์ในการสร้างเสถียรภาพให้กับกริดพลังงานหมุนเวียน เขายังระบุว่าสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนคิดเป็น 60% ของ GDP ของสหรัฐ
“มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ที่ 800 พันล้านดอลลาร์บ่งบอกได้ด้วยตัวมันเอง” ซีเกลกล่าว