Cantor Fitzgerald เมื่อวันอังคารได้สรุปกรอบการประเมินมูลค่า ซึ่งมองว่า Hyperliquid (HYPE) สามารถรองรับมาร์เก็ตแคปมากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงการใช้ตัวคูณ 50 เท่ากับแบบจำลองสมมติฐานรายได้ต่อปี 5 พันล้านดอลลาร์
บริษัทฯ ยังเริ่มออกบทวิเคราะห์สำหรับ PURR และ Hyperion DeFi (RION) ด้วยคำแนะนำ “น้ำหนักมากกว่าตลาด” สื่อถึงมุมมองว่าทรัพย์สินทั้งสองอาจให้ผลตอบแทน ดีกว่าดัชนีอ้างอิงในกลุ่มเดียวกัน
เกิดอะไรขึ้น
ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ Cantor อธิบายช่วงความเป็นไปได้ของรายได้ที่หลากหลายสำหรับ HYPE และใช้ประมาณการเหล่านั้นในการสร้างความอ่อนไหวด้านมูลค่า (valuation sensitivities)
ภายใต้สมมติฐานฝั่งบน รายงานระบุว่า “การใช้ตัวคูณ 50 เท่ากับรายได้ต่อปี 5 พันล้านดอลลาร์ บ่งชี้มาร์เก็ตแคปมากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์” พร้อมระบุว่า กรอบดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ามูลค่าประเมินเติบโตตามรายได้อย่างไร มากกว่าจะเป็นการให้ราคาเป้าหมายเฉพาะเจาะจง
บริษัทเสริมว่า แนวทางนี้สะท้อนวิธีที่เครือข่ายเทคโนโลยีระยะเริ่มต้น ที่มีการเติบโตสูงเคยถูกประเมินในอดีต
Also Read: Judge Approves Expansion Of Solana ‘Pump.fun’ Lawsuit After 5,000 Internal Chats Surface “แบบจำลองถูกออกแบบมาเพื่อแสดงช่วงมูลค่าประเมินที่เป็นตัวแทน ภายใต้อัตราการวิ่งของรายได้ (run-rate) ที่แตกต่างกัน” Cantor เขียน พร้อมเน้นว่าการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับการดำเนินงาน การขยายฐานผู้ใช้ และการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของระบบนิเวศ
ในการให้คำแนะนำ “น้ำหนักมากกว่าตลาด” กับทั้ง PURR และ RION Cantor อ้างถึงโครงสร้างตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้ และเคสการใช้งานใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาเป็นฐานให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจบนแต่ละเครือข่าย
รายงานระบุว่า สินทรัพย์ทั้งคู่แสดงรูปแบบข้อมูล “สอดคล้องกับเครือข่ายที่กำลังเริ่มได้แรงส่ง” แม้จะเตือนว่าภาวะในกลุ่มสินทรัพย์ยังคงผันผวนสูง
Cantor ยังวางกรอบความอ่อนไหวด้านมูลค่าสำหรับ HYPE โดยเปรียบเทียบศักยภาพรายได้ของโปรเจ็กต์นี้ กับคู่เทียบในหมวดใกล้เคียง
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
บริษัทชี้ว่า สมมติฐานในแบบจำลองสะท้อน “เส้นทางเชิงตัวอย่างที่อ้างอิงจากรูปแบบอุปสงค์ที่สังเกตได้ และเมตริกของเครือข่ายในปัจจุบัน” และย้ำว่าผลลัพธ์จริงจะขึ้นอยู่กับภาวะตลาดในวงกว้าง
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า จากมุมมองของ Cantor HYPE, PURR และ RION เป็นสินทรัพย์ที่ควรจับตา เมื่อหมวดหมู่นี้พัฒนาต่อไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นการแยกชั้นที่ชัดเจนขึ้นระหว่างเครือข่าย ที่มีการใช้งานจริงกับเครือข่ายที่พึ่งพากระแสการเก็งกำไรเป็นหลัก

