เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้กำหนดแนวทางที่รอบคอบมากขึ้นในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่จะถึงนี้ ตลาดคริปโตจะได้ประโยชน์ นักวิเคราะห์กล่าว
กล่าวถึงการประชุมของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติในแนชวิลล์ พาวเวลล์ระบุว่าแม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ก็จะน้อยกว่าการลดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ พาวเวลล์ได้เน้นถึงสถานะที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจเมื่อเปรียบเทียบกับความท้าทายในปี 2566 เขากล่าวว่า "การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเราสะท้อนถึงความมั่นใจที่เติบโตขึ้นของเราว่าความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสามารถคงอยู่ได้"
ประธานเฟดเน้นย้ำเรื่องความยืดหยุ่นในการตัดสินใจในอนาคต "เราไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า" พาวเวลล์กล่าว เขาชี้ให้เห็นว่าการเลือกนโยบายจะได้รับการขับเคลื่อนจากข้อมูลและจะตัดสินใจเป็นครั้งคราวในการประชุม
ความสนใจหลักของพาวเวลล์ยังคงอยู่ที่อัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ และความมั่นคงทางราคา แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขามีนัยสำคัญต่อการเข้ารหัสลับ อัตราลดดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เพิ่มปริมาณการค้าคริปโตหลังจากการเคลื่อนไหวช้า ๆ มาหลายสัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าจะมีผลบวกเพิ่มเติมจากการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ริชาร์ด เตง ซีอีโอของ Binance แบ่งปัน มุมมองกับ BeInCrypto "เราคาดว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล" เตงกล่าว เขาอธิบายว่าดอกเบี้ยที่ลดลงจะเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน ซึ่งจะขับเคลื่อนความต้องการสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงสูงอย่างเช่นสกุลเงินดิจิทัล
เตงยังชี้ว่า ความกลัวเรื่องเงินเฟ้ออาจเป็นประโยชน์ต่อสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนบางคนอาจหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรักษากำลังการซื้อ
ตลาด ETF ที่ตั้งขึ้นใหม่อาจช่วยเสริมสร้างผลกระทบนี้ เตงแนะนำว่าอาจ "อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงระหว่างหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลให้ง่ายขึ้น"
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนให้ระมัดระวัง เดวิด มอร์ริสัน นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสที่ Trade Nation เตือนถึงด้านลบที่อาจเกิดขึ้น เขาบอกกับ BeInCrypto ว่า "ถ้าหากการสนทนากลับมาเน้นเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ และแน่นอน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ จะทำให้นักลงทุนหันไปหา 'สินทรัพย์ปลอดภัย' อย่างทองคำและเงิน"
สำหรับขณะนี้ คำพูดของพาวเวลล์ดูเหมือนจะเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโต แนวทางที่รอบคอบในการลดอัตราดอกเบี้ยอาจสร้างสภาพแวดล้อมที่สมดุลเพื่อการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล อาจเพิ่มสภาพคล่องโดยไม่ทำให้เกิดความกลัวเรื่องเงินเฟ้อมากเกินไปที่จะทำให้นักลงทุนหันหลังให้กับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่า