นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด โจฟรีย์ เคนดริค เมื่อวันศุกร์ได้ตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับ Bitcoin โดยคาดว่าคริปโตเคอร์เรนซีจะถึง $135,000 ในไตรมาสที่ 3 โดยอ้างถึงการผสมผสานของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ และการไหลเข้าของ ETF ของบิตคอยน์อันแข็งแกร่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ
ในบันทึกที่ส่งไปยัง Yellow.com เคนดริคระบุว่า แม้บิตคอยน์จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่สภาวะตลาดปัจจุบัน โดยเฉพาะการแปลงพรีเมียมอายุเชิงประเมินของกรมธนารักษ์สหรัฐ และการเปลี่ยนแปลงใน ETF ชี้ว่าสินทรัพย์นี้กำลังมุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล
เคนดริคอธิบายว่า การตอบสนองปัจจุบันของบิตคอยน์ต่อความเสี่ยงจากรัฐบาลสหรัฐ แตกต่างอย่างมากจากการปิดทำการก่อนหน้านี้ เช่น ที่เกิดขึ้นระหว่างธันวาคม 2018 ถึงมกราคม 2019
“ในช่วงการปิดทำการของทรัมป์ก่อนหน้านั้น บิตคอยน์อยู่ในสถานะที่แตกต่างจากปัจจุบัน มันทำได้น้อย แต่ปีนี้บิตคอยน์มีการซื้อขาย พร้อมความเสี่ยงจากรัฐบาลสหรัฐ” เขากล่าว
ข้อมูลจาก Polymarket แสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็น 60% ว่าการปิดทำการในปัจจุบันอาจยาวนาน 10–29 วัน ซึ่งแสดงว่าแนวโน้มที่จะแก้ไขในระยะสั้นน่าจะต่ำ และส่งผลในเชิงบวกต่อบิตคอยน์
การไหลเข้าของ ETF ยังส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกของเคนดริค แม้ว่า ETF ของทองคำจะมีการไหลเข้าแซงหน้า ETF ของบิตคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา เขาคาดการณ์ในไม่ช้าว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเกิดขึ้น
การไหลเข้าสุทธิของ ETF บิตคอยน์ขณะนี้อยู่ที่ $58 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น $23 พันล้าน ในปี 2025 เพียงปีเดียว
เคนดริคคาดว่าจะมีการไหลเข้าอย่างน้อยอีก $20 พันล้าน สู่ ETF ของบิตคอยน์ภายในสิ้นปี สนับสนุนการขึ้นราคาศักยภาพสู่เป้าหมาย $200,000 ของเขาในท้ายปี
นักวิเคราะห์คาดว่าบิตคอยน์จะบรรลุจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลในสัปดาห์หน้า โดยคาดการณ์ไตรมาส 3 ที่ $135,000 อาจบรรลุเป้าหมายเร็ว ๆ นี้ภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
เขาเน้นว่าตลาดขณะนี้ดูเหมือนจะพร้อมสำหรับขั้นต่อไป แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมเชิงฤดูกาลที่แข็งแกร่งเข้าสู่ตุลาคม
นักวิเคราะห์ยังเน้นว่า แม้บิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของ ETF และสภาวะเศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้ความเร่งสำคัญ สร้างโอกาสให้บิตคอยน์เป็นที่ต้องการในฐานะศูนย์กลางทางปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเงิน

