Strategy ซื้อบิตคอยน์ 10,645 BTC มูลค่า 980 ล้านดอลลาร์ ดันการถือครองรวมเป็น 671,268 BTC

1 ชั่วโมงที่แล้ว
Strategy ซื้อบิตคอยน์ 10,645 BTC มูลค่า 980 ล้านดอลลาร์ ดันการถือครองรวมเป็น 671,268 BTC

Strategy เข้าซื้อ Bitcoin 10,645 เหรียญ (BTC) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 980.3 ล้านดอลลาร์ ระหว่างวันที่ 8–14 ธันวาคม

การซื้อครั้งนี้ เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่บริษัทใช้เงินราว 1 พันล้านดอลลาร์ซื้อบิตคอยน์ ส่งผลให้การถือครองรวมเพิ่มเป็น 671,268 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ตามราคาปัจจุบัน

บริษัทใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญชนิด A มูลค่า 888.2 ล้านดอลลาร์เป็นแหล่งเงินทุนหลัก ควบคู่กับเงินที่ได้จากการออกหุ้นบุริมสิทธิแบบ perpetual

เกิดอะไรขึ้น

จากเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า Strategy เข้าซื้อ บิตคอยน์ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ดังกล่าวที่ราคาเฉลี่ย 92,098 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

ดีลนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่บริษัทเพิ่งซื้อ 10,624 BTC มูลค่า 962.7 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 90,615 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์

การถือครองทั้งหมดในปัจจุบันคิดเป็นราว 3.2% ของจำนวนบิตคอยน์สูงสุด 21 ล้านเหรียญ โดยใช้เงินลงทุนรวม 50,300 ล้านดอลลาร์ ที่ต้นทุนเฉลี่ย 74,972 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

บริษัทขายหุ้น MSTR จำนวน 4.79 ล้านหุ้น สร้างรายได้สุทธิ 888.2 ล้านดอลลาร์ ร่วมกับการขายหุ้นบุริมสิทธิ perpetual ของ STRD, STRK และ STRF รวมอีก 101 ล้านดอลลาร์

Strategy ยังคงรักษา ตำแหน่งในดัชนี Nasdaq 100 ไว้ได้หลังการปรับสมดุลดัชนีรายปีที่ประกาศเมื่อ 12 ธันวาคม และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ธันวาคม

อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเผชิญความท้าทายด้านการถูกรวมในดัชนีจาก MSCI ซึ่งกำลังเปิดปรึกษาหารือว่าจะตัดบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในงบสมุดบัญชีเกิน 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมดออกจากดัชนีหรือไม่

Strategy ส่งจดหมายความยาว 12 หน้าเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม คัดค้านข้อเสนอของ MSCI โดยระบุว่ากรอบ 50% นั้นเป็นเงื่อนไขที่ “เลือกปฏิบัติ ไม่มีเหตุผล และปฏิบัติจริงได้ยาก”

MSCI จะประกาศข้อสรุปขั้นสุดท้ายภายในวันที่ 15 มกราคม 2026 และอาจเริ่มบังคับใช้ได้ในการทบทวนดัชนีรอบเดือนกุมภาพันธ์

อ่านเพิ่ม: Japan Rate Hike Could Send Bitcoin to $70K, Analysts Warn

ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ

กลยุทธ์ระดมทุนผ่านการออกหุ้นครั้งใหญ่ในครั้งนี้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากแนวทางการระดมทุนที่ระมัดระวังมากกว่าของ Strategy เมื่อต้นปี 2025

หุ้น MSTR ปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ 176.45 ดอลลาร์ ลดลง 41.2% นับตั้งแต่ต้นปี ตรงกันข้ามกับราคาบิตคอยน์ที่ลดลงเพียง 3.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทลดลงต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ในหลายช่วงเวลา กลับทิศจากเดิมที่เคยเทรดด้วยราคาเหนือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนโมเดลการระดมทุนของบริษัท

JPMorgan ประเมินว่าหาก MSCI ตัดบริษัทออกจากดัชนี อาจกระตุ้นให้กองทุนแบบ passive มียอดไหลออกได้มากถึง 8,800 ล้านดอลลาร์ หากผู้ให้บริการดัชนีรายอื่นทำตาม

Strategy ยืนยันว่าตนดำเนินธุรกิจเชิงรุก ไม่ใช่ยานพาหนะการลงทุนแบบ passive โดยเปรียบโมเดลธุรกิจกับกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และบริษัทพลังงานที่มีการกระจุกตัวของสินทรัพย์สูง

Michael Saylor ประธานบริหาร (Executive Chairman) เปิดเผยว่าบริษัททำผลตอบแทนจากบิตคอยน์ได้ 24.9% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 โดยวัดจากการเติบโตของจำนวนบิตคอยน์ต่อหุ้นปรับลดแล้ว แทนการมองเพียงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเป็นดอลลาร์

ตัวชี้วัดนี้กลายเป็นแกนหลักของการสื่อสารกับผู้ถือหุ้นของ Strategy ขณะที่บริษัทวางตัวเองเป็นธุรกิจคลังสินทรัพย์และโครงสร้างทางการเงินที่เน้นบิตคอยน์เป็นหลัก

บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 90,000 ดอลลาร์ในเช้าวันจันทร์ หลังอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดล่าสุด สร้างความผันผวนให้ราคาหุ้น Strategy ซึ่งเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับราคาสกุลเงินดิจิทัล

บริษัทระบุว่ายังไม่มีแผนขายบิตคอยน์ที่ถือครอง โดยเน้นว่ากลยุทธ์คือการสะสมในระยะยาวหลายทศวรรษโดยไม่สนใจความผันผวนระยะสั้นของตลาด

อ่านเพิ่ม: SEC Dropped 60% of Crypto Cases After Trump Returned to Office, NYT Finds

ข้อจำกัดความรับผิดชอบและคำเตือนความเสี่ยง: ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้มีไว้เพื่อการศึกษาและการให้ข้อมูลเท่านั้น และอิงตามความเห็นของผู้เขียน ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน กฎหมาย หรือภาษี สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง รวมถึงความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ การซื้อขายหรือการถือครองสินทรัพย์คริปโตอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน ความเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ได้แทนนโยบายหรือตำแหน่งอย่างเป็นทางการของ Yellow ผู้ก่อตั้ง หรือผู้บริหาร ควรทำการวิจัยอย่างละเอียดด้วยตนเอง (D.Y.O.R.) และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ เสมอ
ข่าวล่าสุด
แสดงข่าวทั้งหมด