Reliance Global Group ได้นำพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดของตนย้ายเข้าสู่ Zcash ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากกลยุทธ์คริปโทเคอร์เรนซีแบบกระจายความเสี่ยง มาสู่แนวทางการบริหารคลังสินทรัพย์ด้วยเหรียญเดียวที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีความเป็นส่วนตัว บริษัทมหาชนแห่งนี้ได้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านสำเร็จเมื่อวันอังคาร ภายหลังการทบทวนเชิงลึกที่นำโดยทีมที่ปรึกษาคริปโทของบริษัท
เกิดอะไรขึ้น: การผนวกรวมคลังสินทรัพย์
Reliance Global Group, Inc. (NASDAQ:RELI) ได้ประกาศเสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ของคลังสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Treasury) ด้วยการผนวกรวมการถือครองทั้งหมดเข้าสู่ Zcash ตามรายงานพิเศษของ Benzinga report บริษัทได้ออกจากสถานะการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนหน้า และนำเงินทั้งหมดไปจัดสรรใหม่เข้าสู่คริปโทเคอร์เรนซีที่เน้นความเป็นส่วนตัว ซึ่งสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมพื้นฐานของ Bitcoin's
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประเมินเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียดร่วมกับ Blake Janover ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาคริปโท ผลการทบทวนสรุปว่า Zcash นำเสนอโอกาสระยะยาวที่น่าสนใจกว่าการคงพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัลสถาบันแบบกระจายตัว โดยการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมที่เน้นความเป็นส่วนตัวของคริปโทเคอร์เรนซีนี้ว่าเป็นข้อเสนอคุณค่าที่เหนือกว่าแก่ผู้ถือหุ้น
"หลายคนในซิลิคอนแวลลีย์เชื่อว่านี่เป็นช่วงเริ่มต้นมาก ๆ สำหรับ Zcash และเคสนี้ก็มีน้ำหนักอย่างยิ่ง" Janover กล่าว
Also Read: Hoskinson Forecasts 2026 Cardano Rebound On Midnight Protocol Launch, RealFi Momentum
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ: เทคโนโลยีความเป็นส่วนตัว
Zcash โดดเด่นด้วยโมเดลธุรกรรมแบบคู่ ที่รองรับทั้งธุรกรรมโปร่งใสและธุรกรรมที่เน้นความเป็นส่วนตัว ช่วยให้องค์กรได้รับความลับเมื่อจำเป็น ขณะเดียวกันก็ยังคงความสามารถในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ สถาปัตยกรรมนี้มอบอำนาจการควบคุมให้เจ้าของสินทรัพย์โดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของ Reliance ในการใช้แนวทางถือเหรียญเดียวอย่างมุ่งเน้น
คริปโทเคอร์เรนซีนี้ยังคงโครงสร้าง unspent transaction output และอุปทานคงที่แบบเดียวกับ Bitcoin แต่ผสานเทคโนโลยีความเป็นส่วนตัวขั้นสูงผ่าน Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Arguments of Knowledge
ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมแบบโปร่งใสเพื่อความสามารถในการตรวจสอบ หรือใช้ธุรกรรมแบบปกป้อง (shielded) เพื่อความลับ โดยการอัปเกรดอย่าง Sapling และ Halo 2 ทำให้ธุรกรรมส่วนตัวเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สถาบันสามารถแชร์รายละเอียดธุรกรรมกับผู้ตรวจสอบบัญชีหรือหน่วยงานกำกับดูแลได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลอ่อนไหว เทคโนโลยีนี้ช่วยสนับสนุนองค์กรที่ต้องบริหารข้อมูลเชิงแข่งขัน กระแสเงินข้ามพรมแดน หรือกิจกรรมทางการเงินที่มีความละเอียดอ่อน โดยยังคงสอดคล้องกับกรอบธรรมาภิบาล ตามการประเมินของบริษัท
Read Next: Robinhood Buys FTX's LedgerX Platform to Build Independent Prediction Market Exchange

